แต่ท่านทราบไหมว่าระบบปฎิบัติการนามว่า วินโดวส์ (Windows) นี้ มีพัฒนาการเป็นเช่นใด จากแผนภูมิด้านล่างจะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 30 กว่าปี ไมโครซอฟท์ได้สร้างสรรระบบปฎิบัติการที่ใกล้ชิดกับวิถึชีวิตเรามากยิ่งขึ้น
mediathailand จะย้อนรอยให้ท่านได้ทราบถึงพัฒนาการระบบปฎิบัติการนี้ ตั้งแต่เริ่มแรก จนถึงปัจจุบันให้สมาชิกได้ทราบ พอสังเขป
Windows 1.0 (1983)
เป็นระบบปฎิบัติการแรกที่ ต้องดำเนินการติดตั้งบนระบบปฎิบัติการ DOS (ในยุคนั้นเป็น DOS 2.0) เปิดตัวครั้งแรกในเชิงธุรกิจเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี 1985 หรือ พ.ศ. 2528 เป็นรุ่น Windows 1.01
Windows 2.0 (1987)
เป็นการพัฒนาต่อให้การแสดงผลด้านกราฟิกที่ดีขึ้นโดยสามารถแสดงภาพได้ถึง 16 สี รองรับการเปิดตัวโปรแกรมสำนักงาน Microsoft Word และ Excel โดยเปิดตัวในเชิงธุรกิจเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1987
Windows 3.0 (1990)
เป็นช่วงที่คอมพิวเตอร์มีการใช้เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก ด้วยประสิทธิภาพของ CPU ยอดนิยม Intel 286 และ 386 วางบนระบบปฎิบัติการ DOS เช่นเดิม การติดตั้งผ่านแผ่นโปรแกรมติดตั้งแบบ Floppy Disk ขนาด 3.5 นิ้ว ให้การแสดงผลด้านกราฟิก 256 สี เปิดตัวในเชิงธุรกิจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1990
Windows 3.1 (1992)
เป็นพัฒนาการของระบบ Windows ที่แข็งแกร่ง บน CPU ยอดนิยม Intel 386 และ เป็นจุดเริ่มต้นของพัฒนาการ CPU 486 นอกจากจะเป็นการติดตั้งผ่านแผ่นโปรแกรมติดตั้งแบบ Floppy Disk ขนาด 3.5 นิ้วแล้วยังเป็นการเปิดขายระบบปฏิบัติการด้วยแผ่น CD-ROM อีกด้วย และยังเป็นจุดเริ่มต้นของพัฒนาการทำงานในแบบ 32 บิตอีกด้วย นอกจากนี้เป็นครั้งแรกของการพัฒนากลุ่มเครื่องมือในชื่อของ Control Panel ที่เรารู้จักกันดีมาจนถึงทุกวันนี้อีกด้วย เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 เมษายน 1992
Windows for Workgroup 3.1 (1993)
เป็นรุ่นที่มีการพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อต่อ สื่อสารกันได้ง่ายขึ้นทำให้ไมโครซอฟท์ทำการพัฒนาระบบปฎิบัติการที่สามารถทำงานเป็นกลุ่มเครือข่ายได้ เรียกว่า Windows for Workgroup 3.1 ทำให้การเชื่อมต่อแบ่งปันเครื่องพิมพ์ การเข้าถึงข้อมูลระหว่างเครื่องกันได้ เปิดจำหน่ายเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ในปีเดียวกัน ซึ่งก็ยังต้องติดตั้งบนระบบ DOS เช่นเดิม
Windows for Workgroup 3.11 (1993)
เป็นการปรับปรุง Workgroups เดิมให้สามารถรสนับสนุนการเข้าถึงไฟล์ 32 บิตและทำงานในระดับเครือข่าย 32 บิตอย่างแท้จริง ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ต้องใช้ CPU ระดับไม่น้อยกว่า 386SX โดยออกระบบในทางธุรกิจเมื่อ 8 พฤศจิกายน ในปีเดียวกัน
Windows 95 (1995)
นับเป็นการปฎิวัติรูปแบบระบบปฎิบัติการใหม่หมด เป็นครั้งแรกของระบบปฎิบัติการ windows ที่ไม่ต้องติดตั้งระบบ DOS ก่อน นอกจากนี้ User Interface รวมถึง การเข้าถึงระบบ Windows รูปแบบใหม่ บนระบบที่มีความเสถียรภาพ การเข้าถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงแบบ Plug&Play นอกจากนี้ยังเป็นระบบปฎิบัติการที่ใช้ทรัพยากรพื้นที่ติดตั้งระบบที่สูงขึ้นลนพื้นที่ประมาณ 50 MB ที่สำคัญต้องใช้แรมสำหรับการทำงานสูงมากกว่า 8 MB ด้วย และเป็นจุดเริ่มต้นของระบบปฎิบัติการที่สนับสนุน USB ในช่วงที่มีการออกรุ่นปรับปรุงเป็น Windows 95 OSR 2.1 (เมษายน 1997) เปิดตัว Windows 95 เมื่อ 24 สิงหาคม 1995
Windows 98 (1998)
เป็นอีกระบบปฎิบัติการ(code name : Memphis) แห่งพัฒนาการที่แปรเปลี่ยนโลกของการใช้งานคอมพิวเตอร์ การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มากขึ้นที่สำคัญด้วย inferface ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากขึ้น ฉลาด ในการเข้าถึง Device ต่างๆอย่างง่ายและรวดเร็ว รองรับการ์ดแสดงผลแบบใหม่แทน interface แบบ PCI แบบเดิมที่รวดเร็วยิ่งขึ้นเรียกว่า AGP (Accelerated Graphics Port) และการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านช่องทาง USB ที่ดีขึ้นกว่าเดิม และในระบบปฎิบัติการนี้มีการเพิ่มการใช้งานหลายหน้าจอ รองรับ DVD ในตัว สนับสนุนระบบไฟล์ FAT32 ซึ่งทำให้สามารถรองรับฮาร์ดดิสก์ขนาดที่สูงกว่า 2GBต์ได้ คอมพิวเตอร์สามารถแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านแลนได้ด้วยช่องทาง Network address translation (NAT) และโปรแกรมการเชื่อมต่ออื่นๆที่ทำให้การเชื่อมต่อ การแบ่งปันข้อมูลเป็นเรื่องง่าย วางจำหน่ายวันที่ 25 มิถุนายน 1998 (พ.ศ.2541) และรุ่นอัปเดต Windows 98 Second Edition ออกวางจำหน่ายหลังจากนั้นอีกปีคือ วันที่ 10 มิถุนายน 1999 หรือ พ.ศ. 2542
เนื่องจากเรื่องราวพัฒนาการของ Windows ยังมีน่าสนใจอีกมาก ติดตาม part 2 ในเร็ววันนี้
ข้อมูลอ้างอิง
http://www.dipity.com/cmclellan/The-History-of-Windows/?mode=embed&z=0#timeline