Wednesday, October 19, 2016

เลือกใช้โปรแกรม Antivirus เพื่อปกป้องระบบคอมพิวเตอร์ (2016-2017)

2 comments
 

ปัจจุบัน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารส่วนบุคคลประเภทต่างๆ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลและสนองต่อการทำงานในโลกดิจิตอลอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ภัยบุกรุกคุกคาม ไม่ว่าจะเป็น ไวรัส มัลแวร์  ที่ตามติดคู่มากับระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สื่อสารส่วนบุคคล ก็พัฒนาตามมาอย่างไม่หยุดยั้ง  นับเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ดิจิตอลไม่ควรมองข้าม

โปรแกรม Antivirus เป็นอีกโปรแกรมหรือ Apps หนึ่งที่ถือว่าจำเป็นที่สุด มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียค่า license ซึ่งส่วนใหญ่ในปัจจุบัน มีระยะเวลาใช้งานเพียง 1 ปี เท่านั้น (ราคาประมาณ 500 - 1800 บาท)

นอกจากนี้ บางโปรแกรมที่ มีแบนเนอร์ติดตาม Social media อาทิ Facebook ก็มีการโฆษณา ประสิทธิภาพต่างๆที่แสนวิเศษ แต่เมื่อดาวน์โหลดมาใช้งานจริง โปรแกรมบางตัว จะทำการ scan ให้เห็นถึงประสิทธิภาพ แต่เวลาจะใช้งานจริง ก็จะไม่สามารถจำกัดภัยร้ายได้ โปรแกรม จะให้ท่านลงทะเบียนเพื่อ เสียเงิน แถมบางตัว ก็ถอนการติดตั้งออกจากระบบลำบากด้วย

มีคำถามว่า แล้วโปรแกรมแบบใดดีที่สุด แบบฟรี หรือเสียเงิน แล้วแบรนด์ไหนทีมีประสิทธิภาพดี  นับเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก  บางคนชินกับการใช้แบรนด์หนึ่ง ก็จะว่าโปรแกรมนั้นดีกว่าตัวนี้ ซึ่งถือว่า แล้วแต่คนชอบ (ผู้เขียนจะใช้ของ Symantec : Norton 360)

สำหรับวันนี้ จะมาแนะนำ โปรแกรม ทั้งฟรี และแบบเสียค่าบริการ โดยนำเอาข้อมูลส่วนหนึ่งของ Lab ทดสอบที่น่าเชื่อถือของ เว็บไซต์ PCMAG มาเป็นกรณีศึกษา (ปี 2016-2017)

โปรแกรม แบบ ฟรี



ประกอบด้วย


1. Avast antivirus โดยโปรแกรมนี้ถือได้ว่ามีผู้ใช้งานมาก และมีความน่าเชื่อถือในลำดับต้นๆ ที่สำคัญโปรแกรมเวอร์ชั่นฟรี มีประสิทธิภาพในการใช้งานง่ายใช้ทรัพยากรระบบน้อย สนใจศึกษาเพิ่มเติมที่  https://www.avast.com//th-th/index


2. AVG AVG Anti-Virus ออกแบบมาให้ทำงานเบื้องหลังอย่างมีประสิทธิภาพอย่่างเงียบๆ มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก แต่จะแสดง popup หรือหน้าแสดงเชิญชวนให้ท่านเลือกใช้ AVG Professional อยู่บ้างพอรำคาญ ก็น่าเห็นใจที่ต้องขายผลิตภัณฑ์นะ ไงสนใจก็เข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ http://www.avg.com/ww-en/thank-you-antivirus-free?build=692 หรือจะไปศึกษาหน้าตัวแทนประเทศไทยที่  http://avg.antivirus-soft.com/


 
3. Panda Free Antivirus 2016 Panda Antivirus เป็นอีกตัวที่มีชื่อเสียงในการทำงานที่ดี มีคุณลักษณะประสิทธิภาพโดยรวมที่ยอดเยี่ยม มีออปชั่นตรวจจับการเชื่อมต่อของ port USB ซึ่งโปรแกรมจะทำการสแกนก่อนทันที   ไนอกจากนี้หน้าตาอินเตอร์เฟซเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน มีความเรียบง่าย มีขนาดไฟล์ที่มีขนาดเล็ก แต่ การทำงานไม่ได้เล็กตามเลย นับว่า Panda Antivirus เป็นซอฟต์แวร์ที่ดีตัวหนึ่งเลยทีเดียว ที่สำคัญนอกจากเวอร์ชั่นฟรีแล้วหากใช้เวอร์ชั่นเสียเงิน ราคาก็ ค่อนข้างถูก ติดต่อตัวแทนในไทยที่ http://www.pandaavshop.com/product/15/panda-antivirus-pro-2016-key-code-1-device
ศึกษาเพิ่มเติมที่ http://www.pandasecurity.com/thailand/
 
 

 
4. Bitdefender Antivirus Free Edition เป็นอีกหนึ่ง โปรแกรมแอนตี้ไวรัส ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ตัวโปรแกรมมีขนาดเล็ก ใช้ทรัพยากรระบบต่ำมาก มีประวัติในการปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่ดีเยี่ยม กล่าวว่าเป็นโปรแกรมที่มีความแม่นยำและโครงแชมป์ในการตรวจจับด้วย (ข่าวเล่าอ้าง)
 
 
ศึกษาเพิ่มเติมที่ http://www.bitdefender.com/solutions/antivirus.html
 

 
 
เรามาดู ผลการทดสอบกัน ผลคือ  Avast Free Antivirus 2016 ดีที่สุด รองลงมา เป็น AVG AntiVirus Free (2016) Panda Free Antivirus (2016), Bitdefender Antivirus Free Edition (2014), Avira Antivirus 2016, Comodo Antivirus 8 ตามลำดับ ส่วน Microsoft Windows Defender  แม้จะไม่ติดโผ แต่เนื่องจากมากับ Windows 10 ก็มั่นใจในประสิทธิภาพ ความเสถียรภาพที่ดีน่าเชื่อถือได้ (มั้ง)  

แนะนำให้ทดลอง Download ตามลิ้งค์ที่ได้ให้ไว้ ลองเลือกใช้ดูนะครับ

โปรแกรม แบบ เสียเงิน


 
ผลการทดสอบ McAfee Antivirus Plus 2017,  Webroot SecureAnyware Antivirus , Symantec Norton Security และ Bitdefender Antivirus Plus ดีที่สุด ส่วน Avast Pro Antivirus 2016, Emsisoft Anti-Malware 11.0, ESET NOD32 Antivirus 9 และ Trend Micro Antivirus+ Security (2017) คุณภาพดีเยี่ยมเช่นกัน

อ้างอิง http://www.pcmag.com/article2/0,2817,2372364,00.asp

2 Responses so far.

  1. Cracker says:

    Amazing web blog with amazing piece of content, thanks for sharing this post. keep it up and keep sharing such kind of content.

    Avast SecureLine VPN Crack
    ProtonVPN Crack

  2. The length of a round of boxing is not set in stone; it varies by weight class. For example, the heavyweight division (over 200 pounds) has 12-round fights, while the super flyweight (115 pounds and under) and bantamweight (118 – 126 pounds) divisions fight for 10 rounds. Visit How Many Minutes In a Boxing Round

Leave a Reply

ขอบคุณที่ได้ให้ความสนใจบทความ ใน mediathailand network ครับ


สาระ เนื้อหา เรื่องราว ที่ปรากฎอยู่ในบล็อกแห่งนี้ จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมผลงาน แนวคิด จากการศึกษาเรียนรู้ และประสบการณ์ในการทำงาน รวมถึงการนำมาจากแหล่งข้อมูลอื่น(ซึ่งจะแจ้ง links ต้นทาง) นำมาเผยแพร่ให้กับท่านที่สนใจ ผ่านช่องทางและเวทีบล็อกแห่งนี้ หากท่านต้องการที่จะแนะนำ หรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการจัดทำบล็อกความรู้นี้ ติดต่อพูดคุย(ฝากข้อความ) ได้นะครับ

ขอบคุณที่กรุณาเข้าเยี่ยมชม
mediathailand
สุวัฒน์ ธรรมสุนทร
ข้าราชการบำนาญ สำนักงาน กศน.




ข้อเสนอแนะจากเพื่อนสมาชิก Facebook